“นี่! จะเล่นตัวไปไหนห๊ะ! ยัยเตี้ย!”
“ก็ปากเสียแบบนี้แหละฉันถึงไม่อยากรับเธอเป็นแฟนน่ะ!”
หญิงสาวร่างสูงโปร่งผมซอยสั้นปะทะริมฝีปากกับสาวตัวเล็กน่ารักแต่ก็ปากจัดไม่แพ้กันคือภาพคุ้นตาที่ผู้สัญจรไปมาละแวกนี้มักจะเห็นบ่อยอยู่ครั้ง บ้างก็ว่าน่ารัก บ้างก็ว่าน่ารำคาญ..........แต่อย่างหลังน่าจะมากกว่า
‘เชว ซูยอง’ มองร่างเล็กด้วยสายตาเอาเรื่อง.....แต่ไม่มีอะไรมากหรอก ก็เป็นแบบนี้ทุกวันนั้นแหละ
ให้ตายเถอะ.....ตามจีบมาเกือบจะครบปีอยู่ร่อมร่อ แต่แม่คุณก็ดันเล่นตัวอยู่ได้ คนเขาออกจะหล่อแมนแฮนซั่มขนาดนี้ก็ยังไม่แล(?) โถ.....ยัยเตี้ยอย่างเธอจะมีใครเขามาจีบแบบฉันอีก เหอะ! ไม่มีทาง! ส่วนเรื่องที่ว่าปากเสียน่ะเหรอ? ไม่มี๊....ไม่มี
“ฉันปากเสียตรงไหนหายัยเตี้ย! อุตส่าห์มาจีบดีๆแล้วนะเนี่ย!”
‘ลี ซันนี่’ ถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย........สาบานได้เลยว่าไอ้โย่งนี่มาจีบฉันค่ะ......เพียงแต่ว่าปากมันเหมือนมีอะไรเลี้ยงอยู่ในปากสักตัวสองตัว.....เผลอๆอาจจะเป็นฝูง! อยากรู้จริงๆว่าบ้านไหนเขาสอนให้จีบแบบนี้กันนะ........ถ้าเกิดพูดดีกว่านี้อีกสักนิดฉันอาจจะรับไอ้โย่งเป็นแฟนเลยก็ได้..........เพียงแต่ว่าไม่มีวันที่มันจะพูดดีแน่นอน!
“เหอะ......งั้นลองเอาขันที่บ้านมาตักน้ำใส่แล้วชะโงกดูเงาตัวเองเอาเซ่!”
“เอ๊ะ! กระจกก็ทำไมต้องใช้ขันด้วยล่ะยัยเตี้ย นี่เธอบ้ารึไงห๊ะ!”
.......เหมือนจะฉลาดแต่ก็ไม่ฉลาดซะอย่างงั้น.....
ไม่ไหวจะเคลียร์.........ถ้าต้องเป็นแฟนกับคนพรรค์นี้ล่ะก็......เธอยอมตายยังจะดีซะกว่า!
“โอ๊ย.......ฉันล่ะเบื่อแกจริงๆเลยไอ้โย่ง! ยังไงซะ....ฉันก็ไม่มีวันที่จะรับรักแกแน่นอน!”
พูดจบก็พาร่างเตี้ยๆเดินอ้อนแอ้นจากไป.........แบบนี้มันหยามกันชัดๆ!“เหอะ! ฉันจะคอยดูว่าเธอจะไม่รับฉันเป็นแฟนจริงอย่างที่ปากพูดหรือเปล่า...ลี ซุนคยู!”
โป๊ก!
โอ๊ย! ซี๊ด........ส้นสูงมาจากไหนวะเนี่ย!
“อย่าเรียกฉันด้วยชื่อนั้น! เชว ซูยอง!”
........ก็ของเขาแรงอ่ะ.......
“ฮึ่ย......เจ็บใจวะ....อูย......เจ็บตัวด้วย!”
ซูยองลูบหัวที่ปูดเป็นลูกมะนาวอย่างเจ็บแค้นให้ ควอนยูริ หัวเราะด้วยความสะใจ
“ฮ่าๆๆๆ! ก๊าก! ขำว่ะ พ่อคุณคาสโน่ว่าโดนยัยเตี้ยปาส้นสูงใส่ รู้ถึงไหนอายถึงนั่น!”
แกไม่ลองมาเป็นฉันบ้างก็แล้วไปนะ ไอ้ลิงปากเสียนี่......ฉันล่ะขอแช่งให้ยัยสิกงสิก้าอะไรนั่น ทิ้งแกในเร็ววันนี้ด้วยเถอะ.......หวานได้หวานดี หมั่นไส้ว้อย!
“หุบปากเน่าๆของแกไปเลยไอ้ลิงดำ!”
“เหอะ......แกขาวกว่าฉันตายเลยไอ้ซู”
เออ.........สรุปตูมีอะไรดีมั่งไหมเนี่ย คำก็ปากเสีย อีกคำก็ดำ เซ็งชีวิต!
“เออ.....แต่ฉันว่านะ คุณเตี้ยของแกน่ะ อาจจะพอมีใจให้แกบ้างก็ได้นะเว้ย”
ยูริพูดพลางลูบคางตัวเองอย่างใช้ความคิด.........เพิ่งจะพูดเข้าหูก็วันนี้แหละ สักพักมันก็ดีดนิ้วดังเป๊าะเหมือนกับว่าจะนึกอะไรออก
หวังว่าจะพูดอะไรที่มันสร้างสรรค์นะไอ้ลิง.....
“ฉันมีแผนว่ะซู......ง่ายๆ......แต่ได้ผลร้อยเปอร์เซ็นต์!”
“อ๊าย! วันนี้นะ ไอ้โย่งมันมากวนประสาทฉันอีกแล้วอ่ะ!”
“อืม..”
“หน้าตาก็พอดูได้นะ แต่ปากนี่สิ เหมือนเลี้ยงสัตว์สี่ขาไว้ในปากอ่ะแก!”
“อืม....”
“คนบ้าอะไรก็ไม่รู้ ตามตอแยฉันอยู่ได้....น่าเบื่อจริงๆเลย!”
“อืม.........”
“นี่! สิก้า! แกช่วยพูดอะไรให้มากกว่าคำว่า อืม ได้ไหมห๊ะ!”
ซันนี่โพล่งออกมาอย่างเหลืออด คนยิ่งอารมณ์ไม่ดีอยู่ด้วย จะช่วยแสดงความคิดเห็นบ้างก็ไม่ได้ ปล่อยให้พูดกับลมกับฝนอยู่คนเดียว.......นี่เพื่อนฉันเป็นพระอิฐพระปูนหรือยังไงกันเนี่ย!
“.......แกจะให้ฉันพูดอะไร ในเมื่อแกพูดแบบนี้ทุกวัน.....364 วัน.......แกก็พูดเหมือนเดิม.....”
เออ จริงแหะ .......ก็แหมไอ้โย่งนั่นน่ะขยันหาเรื่องมากวนฉันได้ทุกวันนี่ แถมทุกครั้งก็สรรหามุขใหม่ๆมาเล่นให้ได้เคืองอยู่เรื่อยเลย......ไม่ให้พูออกไปบ้างมันก็อึดอัดนะเว้ย!
จองเจสสิก้า มองเพื่อนสาวที่กำลังทำท่าเหมือนจะคลั่งตายด้วยความเฉยชา........อันที่จริง......ถ้าซันนี่จะเลี่ยงไม่คุยกับซูยองก็ได้นะ........แต่เธอเลือกที่จะต่อปากต่อคำเองนี่......ซูยองเองก็เหมือนกัน แม้ว่าเขาอาจจะกวนประสาท แต่ก็ไม่เคยจะทำให้ซันนี่เสียใจเลยสักครั้ง.......ก็คงเป็นพวกปากแข็งจีบไม่เป็นนั่นแหละ......
อีกอย่าง......หากเธอรำคาญอย่างที่ปากพูดจริงๆล่ะก็......คงไม่นั่งยิ้มเมื่อพูดถึงคนกวนประสาทหรอก.......ใช่ไหมล่ะ......
“เฮ้อ.....เมื่อไหร่ไอ้โย่งนั่นจะออกไปจากชีวิตฉันสักทีนะ”
แล้วเธอจะรู้......ซันนี่ ว่าถ้าไม่มีซูยองแล้วเธอจะเป็นยังไง.....เจสสิก้าคิดพลางนึกถึงแผนที่ยูริโทรมาบอกเมื่อครู่......แฟนฉันนี่ก็เจ้าเล่ห์ใช่ย่อยนะเนี่ย......งานนี่ยัยเตี้ยคงจะได้มีแฟนกับเขาสักที......
แปลก.....แปลกจริงๆ......หันไปมองนาฬิกา แปดโมงครึ่งแล้วนี่.....ทำไมไอ้โย่งถึงยังไม่มาเคาะประตูเรียกอีกนะ ลองไปเปิดมองซ้ายมองขวา......ไม่มีแม้แต่เงา
ก็ดีเหมือนกัน.....วันนี้จะได้ไม่มีคนมากวนตอนเช้า.....
ซันนี่มาทำงานที่ร้านดอกไม้ตามปกติ แต่บางอย่างไม่ปกติ.....อย่างเช่น.....วันนี้ซูยองไม่มาซื้อดอกไม้เหมือนทุกวัน เก้าโมงก็แล้ว......สิบโมงก็แล้ว.....ใกล้เที่ยงก็ยังไม่เห็น แปลกจริงแหะ.......เช็คมือถือดู.....ไม่มีสักข้อความที่จะส่งมา.....ช่างเหอะ......ไม่มีไอ้โย่งคอยปากเสียใกล้ๆก็ดีแล้วนี่
วันนี้ครบรอบปีที่เจอกับไอ้โย่ง......แต่ทำไมจะเย็นแล้วก็ไม่โผล่มา......ไม่สิ ฉันจะจำไปทำไมว่าครอบปีแล้ว.....ไม่เห็นต้องจำเลยสักนิด
ว่าแต่ว่า.....เขาจะเป็นอะไรหรือเปล่านะ อาจจะไม่สบายหรือเปล่า......หรืออาจจะกำลังยุ่งอยู่.......มันต้องเป็นแบบนั้นแน่ๆ.....
เฮ้อ.........ทำไมวันนี้มันน่าเบื่ออย่างนี้นะ......ไอ้นู่นไอ้นี่ก็ดูขัดหูขัดตาไปหมด โทรหายัยสิก้าก็ปิดเครื่องอีก.......หันไปมองนาฬิกา สี่ทุ่มสองนาที ป่านนี้แล้วจะนอนหรือยังนะ.......เมื่อไหร่จะโทรมาสักทีนะ.......น่าเบื่อๆๆ วันนี้มันวันอะไรกันเนี่ย! เฮ้อ.......คิดไปก็เหนื่อยเปล่า......นอนดีกว่าเรา........
01.30
นอนไม่หลับแหะ.....ประจำเดือนก็ยังไม่มานี่หว่า......แต่ทำไมยังหลับไม่ลงเสียที กาแฟก็ไม่ได้แตะ........เฮงซวยจริงๆเลย..... ดีนะที่วันนี้ไม่ได้ไปทำงาน.......ไม่งั้นคงได้พาหน้าหมีแพนด้าไปอวดลูกค้าแหงๆ
แปลกแหะ.......อยู่คนเดียวมาตั้งนาน เพิ่งรู้ว่าบ้านของตัวเองก็เงียบพิกล.......เหมือนตัวเองเป็นใบ้ยังไงก็ไม่รู้........เมื่อไหร่ซูยองจะมาหาเธอเสียที.....เออ.......แล้วฉันจะไปนึกถึงไอ้โย่งทำไมกันนะ........ปากเสียก็เท่านั้น.....แต่ว่า.......พอไม่มีเธอแล้วมันก็เหงาเหมือนกัน.....หืม?.......นี่ฉันเหงาเพราะเธองั้นเหรอ!?........เหอะ.....ไม่มีทาง
......กว่าจะหลับลงก็ปาเข้าไปตีสาม.......
สามวัน.......ที่ไม่ได้เจอไอ้โย่ง......เมื่อไหร่กัน เมื่อไหร่เธอจะโทรมา เมื่อไหร่ที่เธอจะมาคอยกวนฉัน คอยเคาะประตูเล่นทุกเช้า.....เมื่อไหร่เธอจะส่งข้อความมา....ช่วงที่ผ่านมาไม่มีการติดต่อใดๆทั้งสิ้น......เหมือนเธอออกไปจากชีวิตฉันยังไงอย่างนั้น.........จริงสิ......ฉันขอให้เธอหายไปมาตลอด.....และตอนนี้......เธอหายไปจริงๆ.........มันก็ดีแล้ว ดีแล้วนี่นา........
ครืด...ครืด
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ทำให้ฉันรีบถลาไปหยิบมันมา........
สิก้า.......
นี่ฉันกำลังหวังให้ใครโทรมาอยู่นะ.........
“ฮัลโหล....”
อา.......เพิ่งสังเกตว่าตัวเองเสียงแหบลงไปเยอะ เอ๊ะ....เมื่อเช้าฉันได้กินข้าวหรือเปล่าหว่า? จำไม่ได้แหะ.....
(“หืม......เสียงเหมือนคนกำลังจะเข้าโลงเลยนะซัน”)
“โห.......ดูพูดเข้าสิ......ฉันยังไม่ใกล้ตายสักหน่อย......”
(“เหรอ......แต่เสียยงเธอฟังดูแย่นะ”)
“เออ.......สิก้า....สองสามวันมานี้ฉันรู้สึกแปลกๆอ่ะ.....มันรู้สึกหดหู่ยังไงก็ไม่รู้.......”
(“.......เธอเจอซูยองครั้งล่าสุดเมื่อไหร่.......”)
“ก็........สามสี่วันก่อน.......”
จะว่าไปฉันก็ไม่ได้เจอซูยองนานแล้วนี่นา.....หรือว่า......ฉันกำลังคิดถึงเธออยู่......
(“คิดดีๆนะซัน.....”)
ฉันรีบตัดสายเจสสิก้าทันทีที่นึกบางอย่างออก........เพิ่งคิดได้ว่า......ฉันเหงา......เพราะใคร.....กดเบอร์ที่จำได้ขึ้นใจ แต่ไม่เคยกดโทรออก เพราะปกติไม่จำเป็นต้องโทรไป
ตรู๊ด......
(“ฮัลโหล.....ฮันแน่!โทรมาคิดถึงฉันล่ะซี่!”)
น้ำเสียงกวนๆที่ฉันได้ยินบ่อยจนจำได้ขึ้นใจ
“เออ! คิดถึงแกแล้วไงห๊ะ ไอ้โย่ง! ทำไมไม่โทรมาบ้าง!ทำไมไม่มาหาฉันหา! ฉันนึกว่าแกจะตายเป็นผีเฝ้าโลงไปแล้วซะอีก! ไอ้....ไอ้ดำ....ไอ้บ้า......ไอ้.....ไอ้คนงี่เง่า.....ฮือ.......ไอ้บ้า นิสัยไม่ดี.....ฮือ.....ไอ้งี่เง่า”
ทันทีที่ได้ยินเสียงคนกวนประสาท คนที่เคยแช่งให้ออกไปจากชีวิต น้ำตามันก็พาลไหลออกมาอย่างช่วยไม่ได้
(“เอ่อ......คือ........ก็เธอไม่อยากเจอหน้าฉันไม่ใช่เหรอ.....”)
“แต่ตอนนี้ฉันเปลี่ยนใจแล้ว! รีบมาหาฉันเลยนะไอ้โย่ง!”
(“เอ่อ.......แหะๆ.....ก็ได้จ๊ะ”) (เจอโหมดโหดซะอย่างงั้น)
กริ๊ก.......
เฮ้ย? ไหงมาเร็วงี้วะ? นั่น.....ยัยสิก้ามาได้ไง......ยูริอีก?......งงค่ะ!?
“ในที่สุดเธอก็รู้ใจตัวเองสักทีนะซัน....” เจสสิก้าพูดเสียงติดเย็นชา......แบบนี้ก็หมายความว่า.....
“เอ่อ.....โทษทีนะซัน.....แผนฉันเองแหละ แหะๆ”
“อยากตายใช่หม้ายยยยยยยยยยยยย ควอนยูริ เชวซูยอง!!”
“เฮ้ย! แล้วสิก้าล่ะ!”
“ยัยนั่นเอาไว้ทีหลัง แต่ตอนนี้แกสองคน.....ตาย!!!!!”
..........หลังจากนั้นบ้านของซันนี่ก็มีอันต้องเละเทะระเนระนาดเพราะเจ้าที่เขาแรง!!
......อย่างน้อย.......การเข้าโรงพยาบาลของยูริและซูยองก็ทำให้ซันนี่ตกลงปลงใจรับรักไอ้โย่งจนได้......สงสัยงานนี้ต้องยกความดีให้ความยูริซะแล้วล่ะ!
THE END
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ความคิดเห็น