Fic snsd : baby,I Iove you!(Yuri) - Fic snsd : baby,I Iove you!(Yuri) นิยาย Fic snsd : baby,I Iove you!(Yuri) : Dek-D.com - Writer

    Fic snsd : baby,I Iove you!(Yuri)

    THE END.....

    ผู้เข้าชมรวม

    2,023

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    2

    ผู้เข้าชมรวม


    2.02K

    ความคิดเห็น


    22

    คนติดตาม


    4
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  3 พ.ค. 54 / 14:11 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น







      

    เชว ซูยอง



     


    ลี ซุนคยู
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ








      นี่! จะเล่นตัวไปไหนห๊ะ! ยัยเตี้ย!”
       
      ก็ปากเสียแบบนี้แหละฉันถึงไม่อยากรับเธอเป็นแฟนน่ะ!”
       
       
      หญิงสาวร่างสูงโปร่งผมซอยสั้นปะทะริมฝีปากกับสาวตัวเล็กน่ารักแต่ก็ปากจัดไม่แพ้กันคือภาพคุ้นตาที่ผู้สัญจรไปมาละแวกนี้มักจะเห็นบ่อยอยู่ครั้ง บ้างก็ว่าน่ารัก บ้างก็ว่าน่ารำคาญ..........แต่อย่างหลังน่าจะมากกว่า
       
       
      เชว ซูยอง มองร่างเล็กด้วยสายตาเอาเรื่อง.....แต่ไม่มีอะไรมากหรอก ก็เป็นแบบนี้ทุกวันนั้นแหละ
       
       
      ให้ตายเถอะ.....ตามจีบมาเกือบจะครบปีอยู่ร่อมร่อ แต่แม่คุณก็ดันเล่นตัวอยู่ได้ คนเขาออกจะหล่อแมนแฮนซั่มขนาดนี้ก็ยังไม่แล(?) โถ.....ยัยเตี้ยอย่างเธอจะมีใครเขามาจีบแบบฉันอีก เหอะ! ไม่มีทาง! ส่วนเรื่องที่ว่าปากเสียน่ะเหรอ? ไม่มี๊....ไม่มี
       
       
      ฉันปากเสียตรงไหนหายัยเตี้ย! อุตส่าห์มาจีบดีๆแล้วนะเนี่ย!”
       
       
      ลี ซันนี่ถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย........สาบานได้เลยว่าไอ้โย่งนี่มาจีบฉันค่ะ......เพียงแต่ว่าปากมันเหมือนมีอะไรเลี้ยงอยู่ในปากสักตัวสองตัว.....เผลอๆอาจจะเป็นฝูง! อยากรู้จริงๆว่าบ้านไหนเขาสอนให้จีบแบบนี้กันนะ........ถ้าเกิดพูดดีกว่านี้อีกสักนิดฉันอาจจะรับไอ้โย่งเป็นแฟนเลยก็ได้..........เพียงแต่ว่าไม่มีวันที่มันจะพูดดีแน่นอน!
       
       
      เหอะ......งั้นลองเอาขันที่บ้านมาตักน้ำใส่แล้วชะโงกดูเงาตัวเองเอาเซ่!”
       
      เอ๊ะ! กระจกก็ทำไมต้องใช้ขันด้วยล่ะยัยเตี้ย นี่เธอบ้ารึไงห๊ะ!”
       
       
      .......เหมือนจะฉลาดแต่ก็ไม่ฉลาดซะอย่างงั้น.....
       
       
      ไม่ไหวจะเคลียร์.........ถ้าต้องเป็นแฟนกับคนพรรค์นี้ล่ะก็......เธอยอมตายยังจะดีซะกว่า!
       
       
      โอ๊ย.......ฉันล่ะเบื่อแกจริงๆเลยไอ้โย่ง! ยังไงซะ....ฉันก็ไม่มีวันที่จะรับรักแกแน่นอน!”
       
       
      พูดจบก็พาร่างเตี้ยๆเดินอ้อนแอ้นจากไป.........แบบนี้มันหยามกันชัดๆ!“เหอะ! ฉันจะคอยดูว่าเธอจะไม่รับฉันเป็นแฟนจริงอย่างที่ปากพูดหรือเปล่า...ลี ซุนคยู!”
       
       
      โป๊ก!
       
       
       
      โอ๊ย! ซี๊ด........ส้นสูงมาจากไหนวะเนี่ย!
       
       
      อย่าเรียกฉันด้วยชื่อนั้น! เชว ซูยอง!”
       
       
       
      ........ก็ของเขาแรงอ่ะ.......
       
       
       
       
       
       
       



      ฮึ่ย......เจ็บใจวะ....อูย......เจ็บตัวด้วย!”
       
      ซูยองลูบหัวที่ปูดเป็นลูกมะนาวอย่างเจ็บแค้นให้ ควอนยูริ หัวเราะด้วยความสะใจ
       
      ฮ่าๆๆๆ! ก๊าก! ขำว่ะ พ่อคุณคาสโน่ว่าโดนยัยเตี้ยปาส้นสูงใส่ รู้ถึงไหนอายถึงนั่น!”
       
      แกไม่ลองมาเป็นฉันบ้างก็แล้วไปนะ ไอ้ลิงปากเสียนี่......ฉันล่ะขอแช่งให้ยัยสิกงสิก้าอะไรนั่น ทิ้งแกในเร็ววันนี้ด้วยเถอะ.......หวานได้หวานดี หมั่นไส้ว้อย!
       
      หุบปากเน่าๆของแกไปเลยไอ้ลิงดำ!”
       
      เหอะ......แกขาวกว่าฉันตายเลยไอ้ซู
       
      เออ.........สรุปตูมีอะไรดีมั่งไหมเนี่ย คำก็ปากเสีย อีกคำก็ดำ เซ็งชีวิต!
       
      เออ.....แต่ฉันว่านะ คุณเตี้ยของแกน่ะ อาจจะพอมีใจให้แกบ้างก็ได้นะเว้ย
       
      ยูริพูดพลางลูบคางตัวเองอย่างใช้ความคิด.........เพิ่งจะพูดเข้าหูก็วันนี้แหละ สักพักมันก็ดีดนิ้วดังเป๊าะเหมือนกับว่าจะนึกอะไรออก……หวังว่าจะพูดอะไรที่มันสร้างสรรค์นะไอ้ลิง.....
       
       
      ฉันมีแผนว่ะซู......ง่ายๆ......แต่ได้ผลร้อยเปอร์เซ็นต์!”
       
       
       
       
       
       
       
       
       
      อ๊าย! วันนี้นะ ไอ้โย่งมันมากวนประสาทฉันอีกแล้วอ่ะ!”
       
      อืม..
       
      หน้าตาก็พอดูได้นะ แต่ปากนี่สิ เหมือนเลี้ยงสัตว์สี่ขาไว้ในปากอ่ะแก!”
       
      อืม....
       
      คนบ้าอะไรก็ไม่รู้ ตามตอแยฉันอยู่ได้....น่าเบื่อจริงๆเลย!”
       
      อืม.........”
       
      นี่! สิก้า! แกช่วยพูดอะไรให้มากกว่าคำว่า อืม ได้ไหมห๊ะ!”
       
      ซันนี่โพล่งออกมาอย่างเหลืออด คนยิ่งอารมณ์ไม่ดีอยู่ด้วย จะช่วยแสดงความคิดเห็นบ้างก็ไม่ได้ ปล่อยให้พูดกับลมกับฝนอยู่คนเดียว.......นี่เพื่อนฉันเป็นพระอิฐพระปูนหรือยังไงกันเนี่ย!
       
      .......แกจะให้ฉันพูดอะไร ในเมื่อแกพูดแบบนี้ทุกวัน.....364 วัน.......แกก็พูดเหมือนเดิม.....
       
      เออ จริงแหะ .......ก็แหมไอ้โย่งนั่นน่ะขยันหาเรื่องมากวนฉันได้ทุกวันนี่ แถมทุกครั้งก็สรรหามุขใหม่ๆมาเล่นให้ได้เคืองอยู่เรื่อยเลย......ไม่ให้พูออกไปบ้างมันก็อึดอัดนะเว้ย! 

       
      จองเจสสิก้า มองเพื่อนสาวที่กำลังทำท่าเหมือนจะคลั่งตายด้วยความเฉยชา........อันที่จริง......ถ้าซันนี่จะเลี่ยงไม่คุยกับซูยองก็ได้นะ........แต่เธอเลือกที่จะต่อปากต่อคำเองนี่......ซูยองเองก็เหมือนกัน แม้ว่าเขาอาจจะกวนประสาท แต่ก็ไม่เคยจะทำให้ซันนี่เสียใจเลยสักครั้ง.......ก็คงเป็นพวกปากแข็งจีบไม่เป็นนั่นแหละ......
       
      อีกอย่าง......หากเธอรำคาญอย่างที่ปากพูดจริงๆล่ะก็......คงไม่นั่งยิ้มเมื่อพูดถึงคนกวนประสาทหรอก.......ใช่ไหมล่ะ......
       
      เฮ้อ.....เมื่อไหร่ไอ้โย่งนั่นจะออกไปจากชีวิตฉันสักทีนะ
       
       
      แล้วเธอจะรู้......ซันนี่ ว่าถ้าไม่มีซูยองแล้วเธอจะเป็นยังไง.....เจสสิก้าคิดพลางนึกถึงแผนที่ยูริโทรมาบอกเมื่อครู่......แฟนฉันนี่ก็เจ้าเล่ห์ใช่ย่อยนะเนี่ย......งานนี่ยัยเตี้ยคงจะได้มีแฟนกับเขาสักที......
       
       
       



      แปลก.....แปลกจริงๆ......หันไปมองนาฬิกา แปดโมงครึ่งแล้วนี่.....ทำไมไอ้โย่งถึงยังไม่มาเคาะประตูเรียกอีกนะ ลองไปเปิดมองซ้ายมองขวา......ไม่มีแม้แต่เงา
       
       
      ก็ดีเหมือนกัน.....วันนี้จะได้ไม่มีคนมากวนตอนเช้า.....
       
       
      ซันนี่มาทำงานที่ร้านดอกไม้ตามปกติ แต่บางอย่างไม่ปกติ.....อย่างเช่น.....วันนี้ซูยองไม่มาซื้อดอกไม้เหมือนทุกวัน เก้าโมงก็แล้ว......สิบโมงก็แล้ว.....ใกล้เที่ยงก็ยังไม่เห็น แปลกจริงแหะ.......เช็คมือถือดู.....ไม่มีสักข้อความที่จะส่งมา.....ช่างเหอะ......ไม่มีไอ้โย่งคอยปากเสียใกล้ๆก็ดีแล้วนี่
       
       
       
       
      วันนี้ครบรอบปีที่เจอกับไอ้โย่ง......แต่ทำไมจะเย็นแล้วก็ไม่โผล่มา......ไม่สิ ฉันจะจำไปทำไมว่าครอบปีแล้ว.....ไม่เห็นต้องจำเลยสักนิด
       
      ว่าแต่ว่า.....เขาจะเป็นอะไรหรือเปล่านะ อาจจะไม่สบายหรือเปล่า......หรืออาจจะกำลังยุ่งอยู่.......มันต้องเป็นแบบนั้นแน่ๆ.....
       
       
       
       
       
       
       
      เฮ้อ.........ทำไมวันนี้มันน่าเบื่ออย่างนี้นะ......ไอ้นู่นไอ้นี่ก็ดูขัดหูขัดตาไปหมด โทรหายัยสิก้าก็ปิดเครื่องอีก.......หันไปมองนาฬิกา สี่ทุ่มสองนาที ป่านนี้แล้วจะนอนหรือยังนะ.......เมื่อไหร่จะโทรมาสักทีนะ.......น่าเบื่อๆๆ วันนี้มันวันอะไรกันเนี่ย! เฮ้อ.......คิดไปก็เหนื่อยเปล่า......นอนดีกว่าเรา........
       
       
       
      01.30
       
      นอนไม่หลับแหะ.....ประจำเดือนก็ยังไม่มานี่หว่า......แต่ทำไมยังหลับไม่ลงเสียที กาแฟก็ไม่ได้แตะ........เฮงซวยจริงๆเลย..... ดีนะที่วันนี้ไม่ได้ไปทำงาน.......ไม่งั้นคงได้พาหน้าหมีแพนด้าไปอวดลูกค้าแหงๆ
       
      แปลกแหะ.......อยู่คนเดียวมาตั้งนาน เพิ่งรู้ว่าบ้านของตัวเองก็เงียบพิกล.......เหมือนตัวเองเป็นใบ้ยังไงก็ไม่รู้........เมื่อไหร่ซูยองจะมาหาเธอเสียที.....เออ.......แล้วฉันจะไปนึกถึงไอ้โย่งทำไมกันนะ........ปากเสียก็เท่านั้น.....แต่ว่า.......พอไม่มีเธอแล้วมันก็เหงาเหมือนกัน.....หืม?.......นี่ฉันเหงาเพราะเธองั้นเหรอ!?........เหอะ.....ไม่มีทาง
       
       
       
      ......กว่าจะหลับลงก็ปาเข้าไปตีสาม.......
       
       
       
       
       
       
       
      สามวัน.......ที่ไม่ได้เจอไอ้โย่ง......เมื่อไหร่กัน เมื่อไหร่เธอจะโทรมา เมื่อไหร่ที่เธอจะมาคอยกวนฉัน คอยเคาะประตูเล่นทุกเช้า.....เมื่อไหร่เธอจะส่งข้อความมา....ช่วงที่ผ่านมาไม่มีการติดต่อใดๆทั้งสิ้น......เหมือนเธอออกไปจากชีวิตฉันยังไงอย่างนั้น.........จริงสิ......ฉันขอให้เธอหายไปมาตลอด.....และตอนนี้......เธอหายไปจริงๆ.........มันก็ดีแล้ว ดีแล้วนี่นา........
       
      ครืด...ครืด
       
      เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ทำให้ฉันรีบถลาไปหยิบมันมา........
       
      สิก้า.......
       
      นี่ฉันกำลังหวังให้ใครโทรมาอยู่นะ.........
       
      ฮัลโหล....
       
      อา.......เพิ่งสังเกตว่าตัวเองเสียงแหบลงไปเยอะ เอ๊ะ....เมื่อเช้าฉันได้กินข้าวหรือเปล่าหว่า? จำไม่ได้แหะ.....
       
      (หืม......เสียงเหมือนคนกำลังจะเข้าโลงเลยนะซัน)
       
      โห.......ดูพูดเข้าสิ......ฉันยังไม่ใกล้ตายสักหน่อย......
       
      (เหรอ......แต่เสียยงเธอฟังดูแย่นะ)
       
      เออ.......สิก้า....สองสามวันมานี้ฉันรู้สึกแปลกๆอ่ะ.....มันรู้สึกหดหู่ยังไงก็ไม่รู้.......
       
      (.......เธอเจอซูยองครั้งล่าสุดเมื่อไหร่.......)
       
      ก็........สามสี่วันก่อน.......
       
      จะว่าไปฉันก็ไม่ได้เจอซูยองนานแล้วนี่นา.....หรือว่า......ฉันกำลังคิดถึงเธออยู่......
       
      (คิดดีๆนะซัน.....)
       
      ฉันรีบตัดสายเจสสิก้าทันทีที่นึกบางอย่างออก........เพิ่งคิดได้ว่า......ฉันเหงา......เพราะใคร.....กดเบอร์ที่จำได้ขึ้นใจ แต่ไม่เคยกดโทรออก เพราะปกติไม่จำเป็นต้องโทรไป
       
      ตรู๊ด......
       
      (ฮัลโหล.....ฮันแน่!โทรมาคิดถึงฉันล่ะซี่!”)
       
      น้ำเสียงกวนๆที่ฉันได้ยินบ่อยจนจำได้ขึ้นใจ
       
      เออ! คิดถึงแกแล้วไงห๊ะ ไอ้โย่ง! ทำไมไม่โทรมาบ้าง!ทำไมไม่มาหาฉันหา! ฉันนึกว่าแกจะตายเป็นผีเฝ้าโลงไปแล้วซะอีก! ไอ้....ไอ้ดำ....ไอ้บ้า......ไอ้.....ไอ้คนงี่เง่า.....ฮือ.......ไอ้บ้า นิสัยไม่ดี.....ฮือ.....ไอ้งี่เง่า
       
      ทันทีที่ได้ยินเสียงคนกวนประสาท คนที่เคยแช่งให้ออกไปจากชีวิต น้ำตามันก็พาลไหลออกมาอย่างช่วยไม่ได้
       
      (เอ่อ......คือ........ก็เธอไม่อยากเจอหน้าฉันไม่ใช่เหรอ.....)
       
      แต่ตอนนี้ฉันเปลี่ยนใจแล้ว! รีบมาหาฉันเลยนะไอ้โย่ง!”
       
      (เอ่อ.......แหะๆ.....ก็ได้จ๊ะ) (เจอโหมดโหดซะอย่างงั้น)
       
      กริ๊ก.......
       
      เฮ้ย? ไหงมาเร็วงี้วะ?  นั่น.....ยัยสิก้ามาได้ไง......ยูริอีก?......งงค่ะ!?
       
      ในที่สุดเธอก็รู้ใจตัวเองสักทีนะซัน.... เจสสิก้าพูดเสียงติดเย็นชา......แบบนี้ก็หมายความว่า.....
       
      เอ่อ.....โทษทีนะซัน.....แผนฉันเองแหละ แหะๆ
       
      อยากตายใช่หม้ายยยยยยยยยยยยย ควอนยูริ เชวซูยอง!!”
       
      เฮ้ย! แล้วสิก้าล่ะ!”
       
      ยัยนั่นเอาไว้ทีหลัง แต่ตอนนี้แกสองคน.....ตาย!!!!!”
       
       
      ..........หลังจากนั้นบ้านของซันนี่ก็มีอันต้องเละเทะระเนระนาดเพราะเจ้าที่เขาแรง!!
       
       
       
       
       
       
      ......อย่างน้อย.......การเข้าโรงพยาบาลของยูริและซูยองก็ทำให้ซันนี่ตกลงปลงใจรับรักไอ้โย่งจนได้......สงสัยงานนี้ต้องยกความดีให้ความยูริซะแล้วล่ะ!
       
       
       
       
      THE END


       

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×